บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

พบหลวงพ่อวัดปากน้ำ

ลุงเกิดคำถามขึ้นในใจ ทำไมจะต้องมีประวัติว่า ระหว่างเรียนชั้น ม.6 ที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องไปรบเร้าคุณพ่อให้พาลุงไปพบหลวงพ่อวัดปากน้ำ?

ตรงนี้คือประวัติสำคัญ

ตลอดเวลาที่เรียนชั้น ม.6 ก็มีเหตุการณ์วุ่นวายเดือดร้อนมาตลอด ไม่ว่าใครก็ต้องมาเดือดร้อนกับลุง แล้วทำไมลุงต้องไปรบกวนให้คุณพ่อพาไป พบหลวงพ่อวัดปากน้ำ?

การไปมาไม่ง่าย ลุงอยู่จังหวัดกาญจนบุรี แต่คุณพ่ออยู่จังหวัดสุพรรณบุรี หลวงพ่ออยู่กรุงเทพ การคมนาคมในสมัยนั้นไม่สะดวกเหมือนยุคปัจจุบัน

หลังจากลุงกลับจากโรงพยาบาลแล้ว ลุงก็เข้าเรียนต่อในโรงเรียนวิสุทธิรังสี (กาญจนบุรี) ต้องเรียนให้ทันเพื่อน เพราะเราขาดเรียนไปนาน เนื่องจากไปรักษาตัวในกรุงเทพ ตามที่กล่าวแล้ว

ครั้งมาเรียนตามเพื่อน ทำให้เรียนไม่ทัน ดีแต่ว่าพี่ชายคือ นายเฉลิม บุญมานุช ได้รับเป็นอุปการะช่วยทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ช่วยสอนเพิ่มเติม

แปลกใจว่า ทำไมเขาอธิบายได้? ทำไมเราทำเลขคณิตยากๆ ได้? จนครูอาจารย์ในโรงเรียนตกใจ ทำไมคุณเฉลิม บุญมานุช รอบรู้ไปหมด? แม้คุณเฉลิมมีวุฒิแค่จบชั้น ม.6 เท่านั้น

คนสมัยก่อนเขาเก่งจริงๆ เรียนมาเพียงจบชั้น ป.6 ทำไมเขาทำเลขคณิตยากๆ ได้

ลุงสอบได้เพราะพี่ชายคนนี้แท้ๆ ทุกวันนี้สวดมนต์ภาวนาให้ทุกวัน หากไม่มีพี่ชายคนนี้ ทุกอย่างจะล้มเหลวหมด

พูดได้คำเดียว หากโลกนี้ไม่มีคนชื่อ เฉลิม บุญมานุช โลกนี้ก็ไม่มีคนชื่อ การุณย์ บุญมานุช ด้วย หากไม่มีคนชื่อ การุณย์ บุญมานุช แล้ว การปราบมารก็เกิดขึ้นไม่ได้ นี่คือบทสรุป

ดังนั้น คนชื่อเฉลิม บุญมานุช คือ หัวใจของความสำเร็จทุกเรื่อง ลุงภาวนาอยู่ทุกวัน ท่านเกิดมาเป็นพี่ชายของลุง ท่านมาทำหน้าที่ดูแลลุง ให้การศึกษาแก่ลุง ทำความสำเร็จให้ทุกอย่าง ไม่ว่าท่านจะไปอยู่ภพไหนและที่ใด? ขอให้ท่านจงอยู่เป็นสุข

ลุงทำวิชาคราวใดก็ระลึกถึง ทำความดีก็ระลึกถึงเสมอ นี่แหละ ลุงเกิดมาคนเดียว ทำให้ใครต่อใครเดือดร้อนไปหมด

ย่อเรื่องเข้ามา ทำไมลุงร้อนใจมาก หากไม่ได้ไปพบหลวงพ่อวัดปากน้ำ? ลุงกำลังเรียนหนังสืออยู่ ได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ลงข่าวเกี่ยวกับหลวงพ่อแล้ว อยากไปพบท่านเหลือเกิน แต่ความปรารถนาของเราเพียงแค่นี้จะสำเร็จหรือ?

การเดินทางจากจังหวัดกาญจนบุรีไปหาคุณพ่อที่จังหวัดสุพรรณบุรี แล้วต้องเดินทางจากจังหวัดสุพรรณบุรีมาจังหวัดธนบุรี เพื่อมุ่งตรงไปวัดปากน้ำ ตอนนั้นจังหวัดธนบุรีกับกรุงเทพยังไม่รวมกัน

ค่าเดินทางสมัยนั้น คนบ้านนอกอย่างเราจะมีค่าใช้จ่ายหรือ?

ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่แล้ว ลูกต้องการอะไร? ท่านสละได้หมด ไม่มีก็ไปยืมเพื่อนบ้าน ลุงเป็นคนบ้านนอกได้รู้เห็นเป็นอย่างดี ทำไมลุงชะตาดีเหลือเกิน? ได้ค่าใช้จ่ายมาอย่างไรไม่ทราบ

ในระหว่างที่ลุงกำลังเรียนชั้น ม.6 อยู่นั้น ลุงเดินทางไปพบคุณพ่อที่จังหวัดสุพรรณบุรี รบเร้าให้คุณพ่อพาไปพบหลวงพ่อวัดปากน้ำ

"ทำไมกูจะพามึงไปไม่ได้ ก็กูเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ กูบวชอยู่วัดปากน้ำ กูเคยเล่าปาฏิโมกข์ได้ หลวงพ่อให้รางวัลตั้ง 20 บาท กูจึงมีค่าเดินทางจากวัดปากน้ำมาเยี่ยมย่ามึงถึงสุพรรณบุรีได้ ถ้ากูเล่าเรื่อง หลวงพ่อก็จำได้" นี่คือ คำพูดของคุณพ่อที่ท่านกล่าวกับลุง ลุงจำได้

การเดินทางโดยเรือยนต์ นัดหมายกันไม่นอนหลับในเรือ กลัวเรือจะล่มอีก แล้วมาต่อรถไฟเข้ากรุงเทพ

คุณพ่อพาขึ้นรถราง ดีใจที่ได้เห็นรถรางในกรุงเทพ ออกจากกรุงเทพมาถึงฝั่งธนบุรี แล้วต่อมาถึงวัดปากน้ำ

ดวงชะตาดีมาก ที่ได้พบหลวงพ่อในตอนเช้า เมื่อหลวงพ่อได้ยินคุณพ่อเล่าประวัติอยู่ครู่หนึ่ง คุณพ่อบวชที่วัดนี้สมัยใด? สมัยนั้นมีใครบ้าง? พอลำดับความมาถึงตรงนี้ หลวงพ่อก็นึกได้

ถามคุณพ่อว่ามีลูกกี่คน? ทำมาหากินอะไร? จังหวัดบ้านเราอยู่สุขสบายกันดีหรือ? ประกอบอาชีพกสิกร ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม? ที่มาวันนี้มีประสงค์ใด?

คุณพ่อตอบแก่หลวงพ่อว่า " ลูกชายคนนี้รบเร้าให้พามาพบหลวงพ่อ" เพียงเท่านั้นเอง หลวงพ่อพุ่งสายตามาที่ลุงทันที มองหน้าลุงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

หลวงพ่อจ้องมองหน้าลุง โดยลุงไม่ทราบเจตนาของท่าน มองดูครู่หนึ่ง แล้วก็สั่งว่า ให้ลูกชายรับ "ของขวัญ" วันนี้เลย

แล้วคุณพ่อก็ไปที่โต๊ะเจ้าหน้าที่การเงินของวัด ชำระเงิน 25 บาท ค่าบูชาพระของขวัญของหลวงพ่อ ที่หลวงพ่อจะมอบให้แก่ลุง 1 องค์

ส่วนตัวของคุณพ่อเองจะรับพระของขวัญด้วยไม่ได้ เพราะเงินไม่พอ นับเงินดูแล้ว จะไม่พอค่ารถค่าเรือกลับบ้าน คุณพ่อจึงรับรูปถ่ายของหลวงพ่อ ค่าบูชา 12 บาท

กล่าวถึงการรับพระของขวัญ คนที่รับก่อนลุงมีลายสักตามเนื้อตัว เวลาหลวงพ่อประกอบพิธีมอบ หลวงพ่อจะกล่าวคำประสิทธิ์ประสาทเป็นคำบาลี ลงท้ายด้วยคำว่า "เต"

แล้วท่านผู้นั้นก็ดิ้นเหมือนเจ้าเข้า เต้นเหมือนเราปลุกพระ

ลุงเห็นเข้าเกิดความไม่อยากรับ กลัวว่าจะดิ้นอย่างคนนั้น

ลุงจึงเดินเข้าไปรับแล้วสั่ง "ให้ท่องสัมมาอะระหังเข้าไว้ แล้วอะไรจะสำเร็จหมด อย่าไปเรียนซุกซนอะไร? ที่แล้ว ๆ มาให้เลิก"

เหมือนกับหลวงพ่อรู้ว่า ลุงเรียนคาถาเสน่ห์ ท่องคาถาเวลาผัดหน้า จะต้องเสกแป้งก่อนแล้วจึงผัดหน้า

หลวงพ่อเตือนแล้วลุง ไม่เสกคาถาผัดหน้าอีกเลย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คงฝึกภาวนาตามใบอธิบาย การใช้พระของขวัญ โดยใช้พระของขวัญเป็นนิมิต

แล้วก็ท่องคาถา สัมมาอะระหัง จากนั้นจึงอธิษฐานขอความสำเร็จ

เมื่อลุงรับพระของขวัญแล้ว คุณพ่อก็เข้ารับรูปถ่ายของหลวงพ่อ วิธีประสิทธิ์ประสาททำอย่างเดียวกัน

พอหลวงพ่อยื่นภาพถ่ายให้ หลวงพ่อพูดว่า "บูชาให้ดี โจรมาโจรตาย" เสร็จแล้วก็ลาหลวงพ่อกลับบ้านสุพรรณบุรีทันที

กล่าวถึงเรื่องรูปถ่ายของหลวงพ่อรูปนี้ เมื่อคุณพ่อนำมาบูชาที่บ้าน ปรากฏว่า ปิดทองกันจนมองไม่เห็นภาพหลวงพ่อ

เหตุการณ์ผ่านมา ลุงเรียนจบวิชาครูแล้วได้มันได้วุฒิ ป.ป. แล้ว ออกรับราชการเป็นครูโรงเรียนโยธินบูรณะ 2 ปี แล้วย้ายไปเป็นครูโรงเรียนวัดบวรนิเวศ

ในช่วงที่ลุงเป็นครูวัดบวรนิเวศนั้น ที่บ้านของคุณพ่อที่สุพรรณบุรี มีขโมยเข้าบ้านจะมาลักควาย พี่ชายของลุงยิงไล่ขโมย ลูกปืนถูกขโมยตาย อำเภอให้รางวัล 2,000 บาท ตรงตามที่หลวงพ่อพยากรณ์ไว้

สภาพของวัดปากน้ำในยุคนั้น

สภาพของวัดปากน้ำในปีนั้น ประมาณปี 2596 อาณาบริเวณของวัดเป็นป่า เดินไม่ดีระวังงูจะกัดเอา

กุฏิพระเป็นหลังน้อยๆ เรียงรายไป รูปร่างของวัดในสมัยที่ลุงมารับพระของขวัญ เทียบกับสมัยที่ลุงมาเรียนต่อวิชาครู ป.ป. ในกรุงเทพ ไม่ต่างกันมาก เพราะปี 2497 ลุงก็มาเรียนต่อวิชาครูในกรุงเทพแล้ว

เรียน 3 ปี จึงจบวุฒิ ป.ป. เรียนจบในปี 2499 เข้ารับราชการเป็นครูโรงเรียนโยธินบูรณะ ตำแหน่งครูจัตวา ได้เงินเดือน 600 บาท

สรุปประวัติการเรียนชั้น ม.6 ของลุง มีแต่ความไม่เรียบร้อย เป็นเหตุการณ์วิกฤติพอเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย โรงเรียนประจำจังหวัดสุพรรณบุรี

พอเรียนได้เทอมเดียวก็ป่วยเสียแล้ว พี่ชายของลุงคือ นายเฉลิม บุญมานุช ก็มารับลุงไปเรียนต่อที่โรงเรียนวิสุทธิรังษี (กาญจนบุรี) เพื่อจะได้ช่วยดูแลสุขภาพของลุง

ลุงเรียนได้ไม่กี่วัน ก็ต้องลาโรงเรียนยาว ไปเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารเรือ คราวแรกไปพักอยู่บ้านย่าเภา วิภัติภูมิประเทศ ที่บ้านสำเหร่ ซึ่งบุตรชายของย่าเภา คือ พลตรีเลียง วิภัติภูมิประเทศ เป็นแพทย์ประจำอยู่โรงพยาบาลนี้ ทำหน้าที่ดูแลรักษา

อีกขั้นตอนหนึ่ง ลุงย้ายบ้านพักมาอยู่บ้านคลองบางกอกน้อย คือ บ้านของย่าบัว

การรักษาดำเนินไปได้ระยะหนึ่ง ลุงเพราะ บุญมานุช ก็เดินทางไปรับลุง ให้รีบไปเข้าเรียนที่จังหวัดกาญจนบุรีต่อ ด้วยเกรงว่าถ้ารักษาตัวนานไป เวลาเรียนจะไม่พอสอบปลายปี

การเดินทางของลุงเพราะ บุญมานุช ต้องมาพบปัญหาเรือโดยสารล่มระหว่างทาง คนโดยสารตาย 300 คน

เมื่อลุงกลับไปเรียนต่อชั้น ม.6 ที่จังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ลุงยังไปรบกวนให้บิดาของลุงพาลุงไปหาหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตามที่เล่านั้น

เป็นอันว่า กว่าจะเรียนจบชั้น ม.6 เรื่องราวมันซับซ้อนเหลือเกิน หากลุงไม่สรุปเรื่องไว้ จะยากต่อการจดจำ

ประวัติของลุงเดินเรื่องมาถึงพบหลวงพ่อวัดปากน้ำแล้ว รับพระของขวัญแล้ว การเรียนดำเนินไปตามปกติและจบชั้น ม.6 ที่จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยบารมีคุ้มครองของหลวงพ่อและอานุภาพพระของขวัญ นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น