บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

กลับบ้านจันทบุรี


ผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดจันทบุรี

ทำราชการตำแหน่งผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดจันทบุรี ทำราชการที่จังหวัดจันทบุรีจนถึงวาระเกษียณราชการ เพราะครอบครัวอยู่ที่นี่

ได้อยู่ร่วมกันพ่อ แม่ ลูก เป็นครั้งแรกในชีวิตราชการ ดีใจมากที่ได้อยู่ร่วมญาติกันเสียที

ทำราชการอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่ปี 2525 และเกษียณราชการที่นี่ จำได้ว่าพอมาถึงจันทบุรี ก็มีเหตุต้องเผยแพร่วิชาธรรมทันที

รู้จักท่านเจ้าคณะอำเภอเมืองจันทบุรี คือ พระครูพิศิฏฐ์ปัญญาคุณ เผยแพร่ธรรมไปกับท่าน ต่อมาท่านเลื่อนเป็นรองเจ้าคณะจังหวัด และเลื่อนเป็นเจ้าคณะจังหวัดในที่สุด สมณศักดิ์ทางสงฆ์เลื่อนจากพระครูเป็นเจ้าคุณ คือเป็น พระปริยัติสุธี และในที่สุดเลื่อนเป็น พระราชจันโมลี

สอนนักเรียนที่วัดของท่านเป็นประจำ เพราะโรงเรียนจัดให้นักเรียนเข้าวัด ถือบวชนุ่งขาวห่มขาว เรียกว่า บวชชีพราหมณ์ รุ่นละ 2 คืน

ลุงไปสอนให้ฝึกวิชาธรรมกายเป็นประจำ ต่อมาถึงยุคที่ลุงเกษียณราชการ การสอนของลุงยุติลง เนื่องจากลุงพูดไม่ได้ เป็นมะเร็งกล่องเสียง ผ่าตัดกล่องเสียงแล้วก็พูดไม่ได้

ท่านเจ้าคณะจังหวัดก็สอนของท่านไปตามลำพัง มีสิ่งที่เหมือนกันกับเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครเรื่องหนึ่ง ก็คือ ลุงไปขอรูปหล่อหลวงพ่อเหมือนตัวจริงจากสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำได้องค์หนึ่ง นำมาประดิษฐานไว้ที่วัดของท่านคือ วัดใหม่เมืองจันท์

ทุกครั้งที่ลุงไปเยี่ยมท่านเจ้าคุณ ลุงจะต้องเข้าไปกราบรูปหลวงพ่อเสมอ สมัยก่อนรูปหล่หลวงพ่อราคา 40,000 บาท ครั้นมาถึงสมัยที่ลุงขอให้เจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี ก็ยังราคา 40,000 บาท ตามเดิม

สรุปแล้ว ชีวิตของลุงเผยแพร่วิชาธรรมกายมาตลอด มี 3 จังหวะที่ไม่ได้เผยแพร่ คือ ตอนเป็นครูอยู่ในกรุงเทพ 10 ปี และตอนมาเป็นศึกษาธิการอำเภอท่าใหม่กับตอนที่มาเป็นผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานีเท่านั้นที่ไม่ได้เผยแพร่

ตำแหน่งราชการอื่น ไม่ว่าไปดำรงตำแหน่งใด ? ลุงเผยแพร่ตลอด

บวชเณรถวายหลวงพ่อ

ประวัติดีเด่นของลุงที่ลุงปลื้มใจคืออะไร? ไม่มีใครทราบ แต่ลุงจะบอกให้รู้วันนี้

หลวงพ่อมรณภาพเมื่อปี 2502 ลุงได้บวชเป็นสามเณรถวายโอกาสที่หลวงพ่อมรณภาพ 7 วัน ตอนนั้นลุงเป็นข้าราชการชั้นตรีแล้ว

ยังให้น้องชายร่วมบวชด้วยอีก 2 คน คือ น้องเฉลี่ยและน้องวิบูลย์ บวชแล้วอยู่ตึกเหลือง อันเป็นตึกที่หลวงพี่พระมหาเจียกอยู่ ท่านช่วยเป็นพระพี่เลี้ยงให้

ยังจำได้ บวชเสร็จแล้ว ไม่รู้จะอยู่กุฏิใด? เพราะไม่ได้วางแผนแต่แรก นึกจะบวชก็บวชเลย บวชแล้วไม่มีกุฏิอยู่

แม่ชีทองสุช สำแดงปั้น ท่านบอกว่า "ขอให้สามเณรอธิษฐานในโบสถ์ พระสงฆ์รูปใดที่หลวงพ่อไว้วางใจ? ขอให้ท่านรับเอาสามเณรไปอยู่ด้วย เพราะสามเณรบวชแค่ 7 วันเท่านั้น"

ลุงก็ทำตามที่แม่ชีบอก

ปรากฏว่าหลวงพี่พระมหาเจียกมาชวนให้ไปอยู่กุฏิของท่าน คือ อยู่ตึกเหลืองเดิม

หลวงพี่พระมหาเจียกช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้ ลุงกับน้องชายอีก 2 คนอยู่กุฏิของท่านครบ 7 วัน แล้วก็ลาสิกขา

หลวงพี่พระมหาเจียก มีประวัติว่าเป็นธรรมกายตั้งแต่ยังเป็นสามเณรน้อย

หลวงพ่อท่านอุ้มชูมาจนวิชาธรรมกายแก่กล้า ต่อมาท่านเลื่อนสมณศักดิ์ทางสงฆ์เป็นพระครูสมณธรรมสมาทาน และเลื่อนเป็นเจ้าคุณสามัญมีชื่อว่า พระภาวนาโกศลเถร ซึ่งชื่อสมณศักดิ์ทางสงฆ์ทั้ง 2 ชื่อนั้น เป็นชื่อสมณศักดิ์ของหลวงพ่อมาแต่เดิม นั่นเอง

นับว่าหลวงพี่พระมหาเจียกเจริญรอยตามหลวงพ่อทุกประการ

ส่วนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ ป.ธ.9) ขณะนั้น มีสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณ "พระศรีวิสุทธิโมลี" อุปัชฌาย์ที่บวชให้แก่ลุงก็คือ ท่านเจ้าคุณพระศรีวิสุทธิโมลี นั่นเอง

คนเราดีที่ประวัติ ลุงมีประวัติดีเด่นตรงนี้เอง

กล่าวถึงการบวชเป็นสามเณรของลุงคราวนั้น บิดาของลุงซึ่งอยู่บ้านนอก ทราบข่าวทางใดไม่ทราบ ท่านเดินทางจากจังหวัดสุพรรณบุรี มาเยี่ยมลุงที่วัดปากน้ำทันที ได้เห็นลุงและน้องชาย 2 คนบวชเป็นสามเณร ท่านก็ปรารภว่า ไม่ทราบเรื่องมาตั้งแต่ต้นว่า พวกเราจะบวชถวายหลวงพ่อ

ถ้าทราบก็จะให้ลุงบวชพระเสียเลย เพราะอายุของลุง 24 ปีแล้ว เนื่องจากลุงยังไม่ได้บวชพระ เมื่อบวชแล้วก็บวชพระเสียเลย จะได้เสร็จกิจวัฒนธรรมการบวชของชาวพุทธ

บิดาของลุงกล่าวอย่างนั้น เรื่องการบวชพระของลุงนั้น แม้จนวันนี้ลุงก็ยังไม่ได้บวชพระ พี่น้องคนอื่นที่เป็นชาย เขาบวชกันทุกคน

เมื่อบวชแล้วเขาก็มีลูกมีเมียตามแบบฉบับของเราชาวพุทธ มีลุงคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้บวชพระ
เหตุใดลุงจึงปลื้มใจต่อการบวชสามเณรถวายหลวงพ่อ?

นี่คือ ประเด็นที่ใครๆ อยากให้ลุงบรรยาย

เหตุใดลุงตัดสินใจทำอย่างนั้น? ลุงมาได้ข้อคิดตอนที่ลุงทำวิชาปราบมารแล้ว

ข้อคิดนั้นก็คือ ลุงเป็นผู้ที่ธาตุธรรมกำหนดตัวให้ทำวิชาปราบมาร คนทำวิชาปราบมารต้องมีประวัติดีเด่น หลวงพ่อวัดปากน้ำมีความสำคัญเพียงใด? เราไม่ต้องบรรยายอีกแล้ว เพราะเป็นที่เข้าใจกันทั้งนั้น

หากลุงไม่บวชคราวนี้ ประวัติของลุงจะสวยได้อย่างไร?

นี่คือเหตุผล แล้วประวัติชีวิตของลุงในตอนนี้ โยงไปถึงประวัติของลุงตอนที่ลุงเรียนชั้น ม.6 เหตุใดจึงมีประวัติว่าไปรบเร้าให้บิดาของลุงพาลุงไปพบหลวงพ่อวัดปากน้ำ?

การไปมาหาสู่กันในครั้งนั้น ไม่สะดวกเหมือนสมัยนี้ ลุงอยู่จังหวัดกาญจนบุรี บิดาของลุงอยู่สุพรรณบุรี ลุงต้องเดินทางโดยรถไฟและโดยสารเรือยนต์ เพื่อไปจังหวัดสุพรรณบุรี สมัยนั้นยังไม่มีรถยนต์ พาหนะโดยสารมีรถไฟกับเรือยนต์เท่านั้น

จะเห็นว่าประวัติการที่ลุงมาพบหลวงพ่อตั้งแต่ครั้งลุงเรียนชั้น ม.6 ในต่างจังหวัด กับประวัติในตอนที่หลวงพ่อมรณภาพ ที่ลุงบวชถวายนั้น มีความสอดคล้องกันพอดี

นี่คือ ประวัติที่ดีงาม เราจะบกพร่องอะไรกับใคร? ไม่มีอะไรเสียหาย แต่อย่าบกพร่องกับหลวงพ่อเป็นอันขาด

เหตุใดลุงจึงตัดสินใจบวชถวายหลวงพ่อ? เป็นเรื่องที่ลุงปลื้มใจมาจนทุกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น