บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

รับราชการต่างจังหวัด


ศึกษาธิการอำเภอป่าโมก

ตำแหน่งราชการคือ ศึกษาธิการอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง (2514-2522) ได้พบแม่ชีถนอม อาสไวย์ แม่ชีได้ปรับปรุงความรู้วิชาธรรมกายให้ใหม่

บอกว่า วิชาที่เรียนมาจากแม่ชีทองสุข ยังคาบลูกคาบดอก แต่แรกลุงเกิดความไม่พอใจ เพราะมีทิฏฐิ เนื่องจากเรียนมานาน ท่านขอร้องให้ลุงเดินวิชา 18 กาย ตามแบบที่หลวงพ่อท่านสอน โดยท่านเป็นคนบอกวิชา แล้วให้เราทำตาม

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดฝันขึ้น นั่นคือ เจ้าคณะจังหวัดอ่างทองเชิญให้ไปเป็นวิทยากรถวายความรู้การฝึกภาวนาตามแบบวิธีขอหลวงพ่อ โดยที่พระเดชพระคุณทราบมาอย่างไรไม่ทราบ ว่าลุงเคยฝึกภาวนาตามแบบหลวงพ่อวัดปากน้ำ

การประชุมพระสงฆ์มีจำนวน 15 วัน 15 คืน เรียกว่า งานปริวาสกรรม ในตอนบ่ายลุงมีหน้าที่ไปบรรยายถวายความรู้ตามตารางอบรม

ปรากฏว่า มีพระสงฆ์กำหนดดวงธรรมได้ และลุงบอกวิชาให้ท่านเดินวิชา 18 กายได้ ซึ่งวิชา 18 กายนี้เป็นไปตามหนังสือ "ทางมรรคผล" ของหลวงพ่อ หรือที่เราเรียกเป็นที่เข้าใจว่า วิชา 18 กายเบื้องต้น นั่นเอง

หนังสือนี้ลุงไปเช่าจากวัดปากน้ำ นำมาถวายแก่พระสงฆ์ที่มาประชุม ลุงดีใจมากที่บอกวิชาให้ท่านทำวิชา 18 กายได้ เหตุผลที่ทำได้ เป็นเพราะแม่ชีถนอมขอร้องให้ลุงลองเดินวิชาดู โดยท่านเป็นผู้บอกวิชา เราเป็นผู้ทำตามได้เพียงไม่กี่วัน แล้วก็มาพบเหตุการณ์ที่ลุงจะต้องไปถวายความรู้แก่พระสงฆ์

การที่ลุงบอกวิชาให้พระสงฆ์ทำได้นั้น เป็นความดีใจของลุง ส่งผลให้ลุงลดทิฏฐิ เมื่อลดทิฏฐิได้แล้ว แม่ชีพูดวิชาอะไร? เราก็ฟังใคร่ครวญทันใด เปรียบเทียบความรู้เดิมที่ลุงเรียนมาจากแม่ชีทองสุข ว่ามีความต่างกันตรงไหน? อย่างไร?

เป็นการปูพื้นฐานความรู้กันใหม่ เรียกว่า ยกร่างกันใหม่ทีเดียว

ลุงทำราชการที่อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เป็นเวลา 8 ปี ได้เรียนรู้วิชาธรรกมายจากแม่ชีถนอม ทำให้ลุงมีความรู้ทางวิชาธรรมกายที่ถูกต้อง ความรู้เดิมที่เพี้ยนก็แก้ไขใหม่ทั้งหมด

สรุปแล้วการมาเป็นศึกษาธิการอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ลุงมีความรู้ทางวิชาธรรมกายหลายอย่าง ดังนี้

1) แก้โรคได้ จำได้ว่า คนที่โรคหาย ได้นำเงินจำนวนหนึ่งมาให้ลุง ลุงก็นำไปสร้างห้องน้ำให้แก่แม่ชีถนอม เพราะแม่ชีถนอมมีเด็กสาวๆ มาบวชอยู่หลายคน หากห้องน้ำไม่พอใช้ จะขลุกขลัก อีกส่วนหนึ่งไปขยายห้องครัว ลุงยังจำได้ไม่ลืม

2) ความรู้วิชาธรรมกายเท่าที่ฟังจากแม่ชีถนอม ทำให้ลุงอ่านตำราวิชาธรรมกายของหลวงพ่อทุกหลักสูตร และอธิบายได้ทุกบท ได้เขียนขยายความรู้วิชาธรรมกายให้ทุกหลักสูตรแล้ว เพื่อเป็นการอนุรักษ์

หากไม่ทำอย่างนี้ วิชาธรรมกายก็สูญไปต่อหน้าต่อตาเรา เพราะวิชาธรรมกายยากเหลือเกิน เกินกว่าที่คนอย่างเราจะเรียนได้

ทุกคนปรารภกับลุง วิชาธรรมกายเป็นความรู้สูงสุดในพระศาสนา ยากที่ใครจะเรียนได้ และการเรียนนั้นยากมากเสียด้วย

ที่ว่ายากก็คือ ความรู้ของเราเพี้ยนไปโดยที่เราไม่รู้ตัว ท่านที่ไม่อ่านตำราเพื่อตรวจสอบความรู้ไว้เสมอ

นั่นคือ ความล้มเหลวที่ลุงได้พบในบัดนี้ ถือว่า หลวงพ่อเคยสอนไว้อย่างนี้ เคยเรียนไว้ว่าอย่างนี้ แต่ไม่สอบความรู้กับตำรา

นั่นคือ ความล้มเหลวที่ลุงได้พบ จงดูว่าเวลานี้มีใครตรวจคนตายได้บ้าง? ว่าเขาตายแล้วไปอยู่ไหน?
ตอบได้เลยว่า ไม่มีใครสามารถตรวจได้?  หมดผู้รู้แล้ว

ถามว่าเวลานี้มีใครสามารถแก้โรคได้บ้าง?

ตอบทันทีว่าไม่มี เอาแค่สอนเบื้องต้นให้เป็นวิชา 18 กาย ก็หาคนทำไม่ได้แล้ว

จริงอยู่ท่านสอนให้เราทำ แต่เกจิอาจารย์ไม่ประสีประสาเลย ก็ได้แต่สอนไปอย่างนั้น พอวัดผลดู ปรากฏว่าไม่ได้ผล 

แม้หลักสูตรเบื้องต้นท่านก็ไม่ได้ความแล้ว แล้วหลักสูตรคู่มือสมภาร หลักสูตรวิชชามรรคผลพิสดาร 1 หลักสูตรมรรคผลพิสดาร 2 ก็ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีใครมีความรู้วิชาธรรมกายหลักสูตรเหล่านี้เลย น่าเสียใจจริงๆ

มาถึงหลักสูตรปราบมาร ก็ต้องว่าไม่มีใครรู้เรื่องแล้ว ได้ยินว่ามีใครอ้างว่าปราบมาร แต่ไม่มีวิทยานิพนธ์เสนอต่อประชาชน แล้วเราจะเชื่อได้อย่างไร?

น่าละอายแก่ใจ พิมพ์เหรียญที่ระลึกว่า เหรียญปราบมาร น่าละอายมาก

การทำราชการของลุงที่อำเภอป่าโมกทำให้ลุงเผยแพร่วิชาธรรมกายตลอดมา

อำเภอนี้เป็นอำเภอจุดประกาย คือ พระสงฆ์ท่านมาเชิญลุงไปสอน

ท่านที่เชิญคนแรก คือ เจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง เสร็จงานของท่านเจ้าคณะจังหวัดแล้ว ตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่ได้หยุด ไปสอนกันไม่เลิกทีเดียว ออกจากจังหวัดนี้ไปต่อจังหวัดนั้น เป็นเวลายาวนานทีเดียว

เหมือนหนึ่งธรรมชาติบังคับว่าต้องเชิญลุง ลุงจึงรู้จักจังหวัดต่างๆ หลายจังหวัด เกิดประสบการณ์ในการสอนมาก เพราะถวายความรู้แก่พระสงฆ์มานานปี

สมัยนั้นไม่มีใครสอนเลย ลุงไปสอนคนเดียว ได้นำความรู้และเทคนิควิธีการสอนเบื้องต้น มาถ่ายทอดแก่วิทยากรรุ่นใหม่ มอบหมายให้ไปสอนตามโรงเรียนต่างๆ วัดผลการสอนแล้ว

ปรากฏว่า มีนักเรียนเห็นธรรมกันแบบ "อัศจรรย์" ทีเดียว ได้ผลเกือบร้อยเปอร์เซนต์ ครูอาจารย์เขาโจษขานกันมาก เพราะครูอาจารย์เขามาสังเกตการณ์งานสอนของวิทยากร เขาเรียกนักเรียนมาตรวจสอบ เขาเรียกนักเรียนมาสอบถาม

ขณะนี้โรงเรียนต่างๆ ในกรุงเทพ ฯ ให้ความนับถือวิทยากรของลุงมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความรู้วิชาธรรมกายหลักสูตรใด? ลุงสอนได้ทั้งนั้น

ผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานี

ตำแหน่งราชการเลื่อนมาเป็นตำแหน่งผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานี

ลุงมาเป็นผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานีได้ระยะหนึ่ง ทำให้การติดต่อกับแม่ชีถนอมไม่สะดวกเหมือนเดิม ไปมาหาสู่กันยากขึ้น ไม่ได้เผยแพร่วิชาธรรมกายเลย เพราะวัดธรรมกายเขาทำอยู่แล้ว

แต่ได้มาพบคู่บารมีเก่าคือ ท่านธีระ วีระกุล (สรรพากรจังหวัดอ่างทอง) ย้ายมาดำรงตำแหน่งสรรพากรจังหวัดปทุมธานี

เดิมทีเดียวท่านให้การอุปการะแม่ชีถนอม เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างไร? ท่านธีระก็เป็นผู้อุปถัมภ์แม่ชี แม้แต่ลุงเผยแพร่วิชาธรรมกาย ท่านผู้นี้จะอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง

จำได้ว่าท่านให้เบี้ยเลี้ยงที่หลวงจ่ายให้ ท่านก็นำมาเป็นค่าน้ำมันรถให้แก่ลุงทั้งหมด ลุงทำราชการที่จังหวัดปทุมธานีนั้น ลุงไม่ได้เผยแพร่วิชาธรรมกายเลย

ทำราชการที่นี่ไม่นาน ทางการก็ย้ายลุงไปเป็นผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร

ผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร

ทำราชการตำแหน่งผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร ปรากฏว่า ท่านธีระ วีระกุล ย้ายไปเป็นสรรพากรจังหวัดสมุทรสาครด้วย เป็นเรื่องแปลกมาก พบท่านธีระ วีระกุล ที่จังหวัดอ่างทอง ยังมาพบกันที่จังหวัดปทุมธานีและยังพบกันที่จังหวัดสมุทรสาครอีก ลุงว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์

กล่าวถึงงานเผยแพร่วิชาธรรมกายของลุง ลุงได้เผยแพร่ที่วัดเจษฎาราม อำเภอเมือง จังหวัสมุทรสาคร เป็นวัดของรองเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งท่านเจ้าคุณสาครธรรมมุณีเป็นเจ้าอาวาส ต่อมาท่านก็เลื่อนเป็นเจ้าคณะจังหวัด ตำแหน่งสมณศักดิ์เลื่อนเป็นเจ้าคุณชั้นราช มีชื่อว่า พระราชสาครมุนี

การเผยแพร่ที่นี่สนุกมาก ท่านเจ้าคุณเอาใจใส่ดีมาก มีฝรั่งชาวเยอรมันมาเรียนด้วย

ลุงยังจำได้ ข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง มีวุฒิการศึกษาปริญญาเอก คือ เป็นด๊อกเตอร์ มาเป็นล่ามช่วยแปลการบรรยายวิชาของลุงเป็นภาษาอังกฤษ ลุงพูดไทยแล้ว ท่านก็แปลเป็นภาษาอังกฤษเดี๋ยวนั้นเลย ปรากฏว่าฝรั่งทำได้ ท่านเจ้าคุณพอใจมาก

เหตุการณ์มาถึงขั้นลุงขอรูปหล่อเท่าองค์จริงรูปปั้นหลวงพ่อวัดปากน้ำ ไปที่สมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ ซึ่งคุณตรีธา เนียมขำ เป็นนายกสมาคม

คุณตรีธา เนียมขำ มีจดหมายตอบให้ลุงทราบว่า ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติไม่อนุมัติ เพราะท่านเจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครรูปนี้ไม่ได้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อ

นี่คือ จดหมายฉบับแรก อีกฉบับหนึ่ง นายกสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำแจ้งว่า มีชายรูปงามคนหนึ่ง ลุงจำชื่อท่านไม่ได้แล้ว

ท่านผู้นี้ถามว่า ใครเป็นคนขอรูปหล่อหลวงพ่อเท่าองค์จริง? นายกสมาคมตอบว่า คนมาขอชื่อนายการุณย์ บุญมานุช ผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร ขอไปเพื่อถวายแก่เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครเพื่อประดิษฐานที่วัดเจษฎาราม เพราะขณะนี้คุณการุณย์ บุญมานุช เขาไปเผยแพร่วิชาธรรมกายที่นั่น

ชายผู้นั้นถามนายกสมาคมว่า "คุณการุณย์ บุญมานุช นี้คือ ครูวัดบวรนิเวศใช่ไหม?" นายกสมาคมตอบว่า "ใช่"

เอาอย่างนี้ ให้นายกสมาคมตอบแก่ผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาครว่า เขารับเป็นเจ้าภาพแต่ผู้เดียว ค่าใช้จ่ายในการหล่อรูปหลวงพ่อเบ็ดเสร็จ 40,000 บาท เขาจ่ายเอง สมาคมไม่ต้องจ่าย"

ผมรู้จักครูการุณย์ บุญมานุช ครูวัดบวรนิเวศเป็นอย่างดี ครูคนนี้เชี่ยวชาญวิชาธรรมกาย วันมาฆบูชาปีนี้ ขอให้คุณการุณย์ อาราธนาท่านเจ้าคุณคณะจังหวัดสมุทรสาคร ไปประกอบพิธีชักสายสูตหล่อรูปหลวงพ่อวัดปากน้ำ

ครั้นถึงวันมาฆบูชา อันเป็นวันที่ทางวัดปากน้ำจัดพิธีหล่อรูปหล่อหลวงพ่อ ลุงและท่านเจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ก็ไปร่วมพิธีที่วัดปากน้ำ

ต่อมาก็ถึงพิธีอัญเชิญรูปหล่อหลวงพ่อเข้าประดิษฐานที่วัดเจษฎาราม จัดพิธีอัญเชิญอย่างสมเกียรติ คุณผู้เป็นเจ้าภาพยังมอบรูปถ่ายหลวงพ่อขาวดำขนาดใหญ่ให้อีก 1 รูป

เวลานี้ทั้งรูปหล่อหลวงพ่อและรูปถ่ายของหลวงพ่อประดิษฐานยูที่วัดเจษฎาราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร

เป็นวัดที่ลุงเผยแพร่วิชาธรรมกายตลอดเวลาที่ลุงรับราชการอยู่ที่จังหวัดนี้ ยังอยู่ในความทรงจำเป็นอันดี สนุกมากครับ สอนได้มาก เผยแพร่วิชาธรรมกายได้ชนิดได้เนื้อได้น้ำทีเดียว

กล่าวถึงปีที่ลุงเผยแพร่วิชาธรรมกายอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น คุณสหภูมิ ดอกแก้ว เกิดแล้ว แต่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ ยังไม่รู้จักลุง แต่ยายของคุณสหภูมิชื่อ "คุณศรี" ได้เรียนวิชากับลุงแล้ว
แม้วันนี้ยังจำคุณยายศรีได้แม่น

ขณะที่บรรยากาศการเผยแพร่กำลังสนุกอยู่นั้น ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณสนุกไปด้วย ผู้คนเข้าวัดมาก มีคนมาเรียนมาก

ลุงกับท่านเจ้าคุณฝึกวิชาร่วมกันทุกวัน เกิดความคุ้นเคย เกิดความเคารพนับถือกัน พอมีข่าวว่าลุงจะย้ายกลับไปเป็นผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดจันทบุรี ท่านเจ้าคุณไม่พอใจ ได้ปรารภเรื่องนี้กับคุณเจี๋ย ก๊กผล ส.ส.จังหวัดสมุทรสาคร ทำอย่างไรจะยับยั้งได้?

พอลุงรู้ความ ลุงก็เข้ากราบนมัสการถึงความจำเป็นของชีวิต ว่าเหลือเวลาไม่กี่ปีก็จะเกษียณ อายุราชการ ยังไม่ได้ปลูกบ้านส่วนตัวเลย ยังไม่ได้เตรียมการอะไรเพื่อบั้นปลายชีวิตเลย

ท่านเจ้าคุณเข้าใจเหตุผล จึงยินยอมและไม่เข้ากระทรวงเพื่อยับยั้งการย้ายตำแหน่งราชการของลุง
ท่านเจ้าคุณมาส่งลุง ท่านเจ้าคุณเสียใจมาก ท่านปรารภกับลุงว่า ลุงเป็นเพื่อนสร้างบารมีที่ดีของท่าน ท่านเป็นวิชาธรรมกายก็เพราะลุงเป็นเหตุ

ท่านไม่ลืมลุงตลอดชีวิตของท่าน การเผยแพร่สมัยที่อยู่จังหวัดสมุทรสาคร ท่านพูดว่าสนุกมาก ถึงไหนถึงกัน ท่านเจ้าคุณเป็นผู้นัดหมาย กำหนดจุดหมายเผยแพร่ จากจุดหนึ่งไปยังจุดอื่น ไม่มีการหยุดยั้ง

ท่านเจ้าคุณมอบให้ลุงสอน ส่วนท่านเจ้าคุณรับเป็นผู้ควบคุมทั้งหมด

อยู่มาไม่นาน ได้รับทราบข่าวทางหนังสือพิมพ์ว่าท่านเจ้าคุณมรณภาพ

โยมวัดพูดกับลุงว่า "ตั้งแต่คุณศึกษา ฯ ย้ายมาอยู่จังหวัดจันทบุรี ท่านเจ้าคุณดูว่าไม่บันเทิงใจ การเรียนภาวนาไม่บันเทิงใจเหมือนสมัยที่ศึกษาฯ อยู่สมุทรสาคร

ท่านเจ้าคุณมีอารมณ์หงุดหงิดบ่อยครั้ง เพราะไม่มีใครกำกับให้ทำวิชา ถ้าศึกษาฯ อยู่สมุทรสาคร ท่านเจ้าคุณจะทำวิชาตามกำหนดเวลา

เมื่อศึกษาฯ ไม่อยู่ วิชาของท่านเจ้าคุณทำบ้างไม่ทำบ้าง ส่งผลให้อารมณ์ไม่บันเทิง ต่อมาก็ป่วยและมรณภาพไปในที่สุด"

คนที่เสียใจมากคือลุง เพราะท่านเป็นพระผู้ใหญ่ ท่านรู้คุณค่าของวิชาธรรมกาย เอาจริงเอาจัง งานเผยแพร่ก้าวไปเร็ว แต่ขาดเพื่อนคู่คิด

เพื่อนคู่คิดคือลุง ลุงไปในงานฌาปนกิจของท่าน โยมวัดออกมาต้อนรับลุง "หากศึกษาฯ ไม่ย้ายตำแหน่ง ท่านเจ้าคุณจะยังไม่มรณภาพ"

นี่คือ คำกล่าวของโยมวัด ลุงจำได้ไม่ลืม ทุกวันนี้ลุงทำวิชาเสร็จ ลุงก็เข้าวิชาไปเยี่ยมท่านเจ้าคุณ ปกป้องให้ท่านเจ้าคุณสู่สุคติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น