บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

วิบากกรรมในวัยเด็ก

รำพึงถึงความหลัง ที่วิบากเกิดแก่ลุง ทำไมจะต้องมีวิบากกรรมอย่างนั้น? ถ้าไม่บันทึกไว้ เกรงว่าจะลืม เพราะยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณแก่ผู้อุปการะคุณเลย

เหตุที่ระลึกได้ ก็เพราะเรายังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณท่านเหล่านั้น ลุงเกิดความไม่สบายใจ ลุงเกิดท่ามกลางความเดือดร้อนของคนทั้งหลาย เราเป็นหนี้บุญคุณเขา

มาคิดได้ในวันนี้ คนที่เกิดมาเพื่อทำวิชาปราบมารนั้น จะไม่มีอะไรราบรื่นเหมือนคนทั้งหลาย

ตั้งแต่เกิดมามีตัวตน จะพบแต่วิบากกรรมนานาชนิด มีแต่เหตุการณ์จะตายรายวัน ชาวบ้าทั้งหลายที่เขาเกิดมา เขามีความเป็นปกติสุข ถึงเขาจะมีทุกข์ร้อนบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดาของชาวโล

แต่ชีวิตของลุงไม่เป็นที่อย่างชาวบ้านทั้งหลายเป็น มันผิดไปจากชาวบ้านเขา จนพ่อแม่พี่น้องเอือมระอา ที่ทุกคนจะต้องมาปฏิบัติดูแลลุง เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แก่ลุงทุกวี่ทุกวัน เป็นที่น่ารำคาญ แต่โดยเหตุที่ลุงเกิดมาเป็นลูกของท่าน

ลุงเป็นน้องของพี่ๆ ท่านเหล่านั้นก็จำเป็นต้องมาปฏิบัติดูแลลุงโดยภาวะจำยอม

เฉียดตายครั้งที่ 1

ชีวิตวัยเด็กน้อย พี่สาวเล่าว่า เป็นเด็กน้อยพลัดตกน้ำ ตกน้ำแล้วไม่จม คุณแม่มีครรภ์แก่จึงก้มไม่ได้ ไปช่วยลูกไม่ได้ ได้แต่ร้องตะโกนให้เพื่อนบ้านมาช่วย เพื่อนบ้านก็มาช่วยไว้ได้

พี่สาวเล่าว่า ตกน้ำแต่ไม่จมน้ำ ตัวลอยน้ำได้ หากจมน้ำก็ตายไปแล้ว เพราะกว่าที่เพื่อนบ้านจะมาช่วย เด็กน้อยก็จะกลืนน้ำและก็หายใจไม่ออก แล้วก็จะตายไป เหตุที่ไม่ตายเพราะตัวลอยน้ำ

พี่สาวยังเล่าต่อไปว่า ในตอนที่ลุงเป็นเด็กน้อยนั้น ลุงได้ทำประโยชน์แล้ว พี่สาวจะพาลุงนั่งเรือไปตามบ้านต่างๆ ใครบ้านไหนกินปลาแล้วก้างติดคอ? พี่สาวก็จะเอาเท้าของลุงไปลูบที่คอของเขา แล้วก้างปลาก็จะหลุด

เมืองสุพรรณบุรีนั้น ถ้าถึงฤดูน้ำท่วมแล้ว น้ำจะท่วมอยู่หลายเดือน การสัญจรไปมาต้องใช้เรือพายไป  อาหารประจำวันคือ ปลาน้ำจืด เมืองสุพรรณมีปลาชุมเหลือเกิน ปลาคืออาหารหลัก จึงมีปัญหาเรื่องก้างปลาติดคอ

นี่คือ การบอกเล่าของพี่สาว (นางแฉล้ม พี่สาวคนโต พี่น้องร่วมมารดามี 9 คน พี่แฉล้มเป็นคนที่ 2 ลุงเป็นคนที่ 5)

ชีวิตวัยเด็กเล็กรอดตายจากการตกน้ำ

โตขึ้นหน่อยก็ต้องรับหน้าที่เลี้ยงควาย เด็กรุ่นๆ ของลุง ถ้ายังไม่เข้าโรงเรียน ก็ยังไม่นุ่งผ้า จะเข้าโรงเรียนก็ต้องอายุ 9 ขวบ

ลุงอายุ 3-4 ขวบ ก็ต้องช่วยพ่อแม่ด้วยการเลี้ยงควาย เพราะยังทำไร่ไถนาไม่ได้ การทำนาสมัยนั้นใช้ควายลากไถ ไม่ใช้วัวกันเลย ไม่ว่าบ้านไหนใช้ควายทั้งนั้น

มองไปในทุ่งนาเห็นแต่ฝูงควาย ผิดกับสังคมเมือง ในเมืองของเรานั้น มองไปพบแต่ตึกรามบ้านช่อง แต่ในชนบทมีแต่ทุ่งนา และฝูงควาย

การเลี้ยงควายนั้น ต้องเรียนรู้การบังคับควาย เราต้องขี่หลังได้และบังคับเชือกได้ จะให้ควายไปทางไหน? เราต้องดึงเชือกได้

ควายที่ว่าง่ายจะปฏิบัติตามการบังคับของเราได้ แต่ควายของลุงบางตัวมันดื้อ บังคับเชือกเท่าไรมันไม่ฟัง มันเข้าไปกินข้าวในนาของเขา เจ้าของนาเขาก็ออกมาตีลุง ฐานที่ปล่อยให้ควายไปกินข้าวในนาของเขา

ลุงเคยพบเหตุการณ์นี้มาแล้ว ยังอยู่ในความทรงจำมาจนถึงวันนี้ เขาน่าจะสงสารเด็กเล็กที่ยังแก้ผ้า ไม่ได้เจตนา แต่เป็นเพราะเด็กบังคับควายไม่อยู่ เพราะความดื้อของมัน สุดท้ายมันทำให้เขามาตีลุง

ควายตัวนี้ชื่ออีโมง จมูกมันแข็ง ดึงเชือกเท่าไรมันไม่ฟัง เวลาไถนาเราต้องให้คนที่เป็นผู้ใหญ่ใช้ จึงจะใช้มันได้ หากเป็นเด็กแล้ว เอามันไม่อยู่

เรื่องจะตายรายวันยังมีอีกคือ ตกควายแผ่นดินหมุน และควายขวิดกันในแม่น้ำ ลุงหลุดรอดมาได้อย่างไร? ควายขวิดลุง แต่ปลายเขาไม่ถูกตัวลุง

ปรากฏว่าตัวของลุงนั่งอยู่บนเขาของมัน หากปลายเขาถูกตัวลุง ลุงก็ตายอยู่ตรงนั้น แต่หลุดรอดมาได้

ถ้าลุงไม่นำเรื่องราวเหล่านี้มาเล่าไว้ เราจะไม่ได้ข้อคิดอะไร? เพราะ เรามีหน้าที่ต้องเรียนรู้ว่า คนที่เกิดมาเพื่อจะปราบมารนั้น มารเขาหาวิธีจะให้เราตายรายวัน เพื่อให้เราตายไป จะได้ไม่ต้องมาทำวิชาปราบมาร

ชีวิตของเราจึงมีแต่ความทุกข์ยาก มีแต่ใจหายใจคว่ำ ไม่มีอะไรสนุกเลย นอกจากอุบัติเหตุแล้ว ก็ยังตามด้วยโรคภัยนานา ลุงจะเล่าให้ฟัง เพราะยังอยู่ในความทรงจำ ยังไม่ลืมเลือน

เฉียดตายครั้งที่ 2

เรื่องตกควายแผ่นดินหมุน ตอนนั้นยังเป็นเด็กเล็ก อายุ 3-4 ขวบ มีหน้าที่ช่วยพ่อแม่ด้วยการขายควาย

ควายของลุงมีหลายรุ่น แต่รุ่นที่ลุงมีหน้าที่เลี้ยง มีไม่กี่รุ่น รุ่นที่ลุงไม่ได้ดูแล ก็เป็นหน้าที่ของพี่ชาย จะขอเล่าแต่รุ่นที่ลุงเลี้ยงเท่านั้น

ไอ้ท่อกกับไอ้หนุ่ม เป็นควายแสนดี ว่าง่ายไม่ดื้อ ลุงสวดมนต์ถึงเสมอ เป็นภาพติดตา

ไอ้หนุ่มเขาสั้น แต่ไอ้ท่องเขากางยาว ปกติลุงขี่ไอ้หนุ่มนำหน้า ไอ้ท่อกตามหลัง วันหนึ่งเอามันไปนอนน้ำในแม่น้ำ แล้วก็ทำความสะอาดให้มัน อันเป็นกิจวัตรประจำวัน

พอมันขึ้นจากแม่น้ำ ลุงก็ขึ้นขี่บนหลังไอ้หนุ่ม มันคิดอย่างไรไม่ทราบ? มันวิ่งลำพอง ลุงดึงเชือกไม่อยู่ จึงตกจากหลังไอ้หนุ่ม แผ่นดินหมุน นั่งอยู่ตรงนั้น เพราะแผ่นดินยังหมุนอยู่ ยังมองไม่เห็นไอ้หนุ่มกับไอ้ท่อกว่าวิ่งหนีลุงไปทางไหน?

ต่อเมื่อครู่หนึ่งผ่านไป อาการแผ่นดินหมุนเบาลงแล้ว จึงมองเห็นอะไรรอบตัวเราชัดเจนขึ้น
ลุงไม่เห็นควาย ไม่รู้มันไปทางไหน? ถ้ามันเข้าไปกินข้าวของเขา เจ้าของนาเขาจะต้องตีเรา พอได้สติแล้ว ก็เดินร้องไห้ไปคนเดียว เพื่อติดตามไอ้หนุ่มกับไอ้ท่อก

ไปพบชาวนาผู้หนึ่ง ถามลุงว่า “หนูร้องไห้ทำไม” ลุงตอบว่า “หาควายไม่พบ”

ควายของเอ็งมีกี่ตัว? ข้าเดินผ่านมาเห็นควาย 2 ตัว ตัวหนึ่งเขาสั้น อีกตัวเขากาง มันไปกินหญ้าอยู่ทางโน้น ใช่ควายของเอ็งไหม ?"

แล้วลุงก็เดินไปตามเส้นทางที่เขาชี้ เห็นไอ้หนุ่มกับไอ้ท่อกมันกินหญ้าอยู่ จึงวิ่งเพิ่มความเร็วขึ้น เข้าไปใกล้มันจึงหมดกังวล เพราะมันกินหญ้าตามคันนา ไม่ได้เข้าไปกินข้าวของเขา จึงรอดตัวจากการถูกตีไป แล้วลุงก็ตามมันกลับบ้าน

เฉียดตายครั้งที่ 3

เรื่องควายขวิดกันในแม่น้ำ ตอนนั้นลุงอยู่บนหลังควาย หลุดรอดมาได้อย่างไร? เป็นความอัศจรรย์
มาถึงยุคของควายรุ่นใหม่ หมดยุคไอ้หนุ่มกับไอ้ท่อกแล้ว ก็มาถึงยุคไอ้หมอน ไอ้หมอนเป็นควายหนุ่มกำลังเปลี่ยว กำลังสู่ความเป็นนักสู้

ท่านต้องทราบเรื่องของควายไว้อย่างหนึ่ง คือ ควายหนุ่มเป็นควายเปลี่ยว ดูที่คอของมัน ถ้าคออ้วนหนา แปลว่า เกิดเปลี่ยวแล้ว

ก่อนที่มันจะเปลี่ยว มันจะไม่สู้ใคร แต่พอมันเปลี่ยวคอหนา มันสู้ควายไม่เลือกหน้า ควายตัวใดที่เคยชนะมันมา? มันจะสู้ทั้งนั้น มันไปท้าขวิดได้ทั้งนั้น และมันก็จะชนะเขา เพราะความเปลี่ยวของมัน แต่ถ้าเราตอนมัน มันจะกลับไม่สู้ควายใดๆ

นี่คือ ความรู้พื้นฐานของควาย

กล่าวถึงไอ้หมอน มันเป็นควายหนุ่มกำลังสู่ความเปลี่ยว มันเริ่มสู้ควายตัวอื่น ไม่ว่าใครมาเจอมัน? มันจะสู้เขาทั้งนั้น

วันหนึ่งลุงนำมันไปลงน้ำในแม่น้ำ อันเป็นปกติธุระของการเลี้ยงควาย คู่ต่อสู้ของมันมาจากไหน? ลุงไม่ทันเห็น! ลุงกำลังอยู่บนหลังของไอ้หมอน กำลังถูเนื้อตัวให้มัน

ลุงเหลือบไปเห็นคู่ต่อสู้ของมัน กำลังเข้ามาใกล้ไอ้หมอนแล้ว ไอ้หมอนลุกจากท่านอน เตรียมท่าต่อสู้

ลุงกระโจนออกจากหลังไอ้หมอน เพื่อหนีให้พ้นรัศมีการต่อสู้ของมัน เพราะเวลามันขวิดกัน มันจะเอาหัวมาชนกัน แล้วก็หมุนตัวไปรอบๆ ตามแบบฉบับการต่อสู้

กล่าวถึงลุง กระโดดออกไปแล้ว แต่น้ำแค่หน้าอก เราจะออกไปได้อย่างไร?

ปัญหาอยู่ตรงนี้ ถ้าเป็นพื้นดินเราวิ่งได้ แต่ว่าขณะนี้เราอยู่ในแม่น้ำ น้ำแค่หน้าอก เราจะเอาตัวเราออกไปได้อย่างไรให้ห่างจากรัศมีการต่อสู้ของควาย?

ถ้าเราหนีไปไม่พ้น ควายก็เหยียบเราตาย เพราะมันต้องหมุนตัวมาเหยียบเรา เนื่องจากเรายังไม่พ้นจากรัศมีการต่อสู้ของมัน เป็นความอัศจรรย์ที่ลุงหลุดพ้นออกไปจากรัศมีการต่อสู้ของมันได้

จึงรอดจากความตาย แม้ถึงวันนี้ก็ยังลำดับเหตุการณ์ได้ ไม่ลืมเลือน เดชะบุญที่หลุดรอดออกมาได้ เป็นปาฏิหาริย์แท้ๆ

นี่คือ ความทรงจำที่จำได้ไม่ลืมรอดมาได้อย่างไร? นี่คือ คำถามที่ลุงถามตัวเองเกือบทุกวัน

เฉียดตายครั้งที่ 4

เรื่องมีอยู่ว่า ลุงกำลังลูบตัวควายที่เราเลี้ยง ถูกมันขวิด แต่ปลายเขาของมันไม่ถูกตัวลุง ตัวของลุงไปนั่งอยู่บนหัวของมันได้อย่างไร? หากปลายเขาของมันถูกตัวลุง ลุงก็ตายอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ควายตัวไหนหรือที่ขวิดลุง? ก็ไอ้หมอน ตัวที่ขวิดกับคู่ต่อสู้ของมันในแม่น้ำ ไอ้หมอนตัวนี้เอง

ลุงขี่มันไปเลี้ยง แล้วลุงก็ลงจากหลังของมัน มันกำลังกินหญ้า จะด้วยมันหวงหญ้าหรือมันเกิดรำคาญที่ลุงเข้าไปลูบตัวของมันด้วยความเอ็นดู

มันก็แว้งมาขวิดลุง โดยที่ลุงไม่คิดว่ามันจะทำอย่างนั้น

ปรากฏว่าลุงไปนั่งอยู่บนหัวของมัน ปลายเขาของมันไม่ถูกลำตัวของลุง แล้วตัวของลุงก็หล่นไปจากหัวของมัน แต่มันไม่ขวิดซ้ำ

มันกินหญ้าของมันไปตามปกติ เมื่อตัวลุงหลุดไปจากหัวของมันแล้ว ลุงก็ไปนั่งอยู่คนเดียว ไปห่างจากควายเท่าไร?

มีอาการจุกหายใจไม่คล่อง อีกครู่หนึ่งต่อมา อาการของลุงดีขึ้น จึงขี่มันกลับบ้าน นี่มันอะไรกัน? ทำไมเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแก่เด็กน้อย?

ลุงจำความหลังได้ไม่ลืม ถ้าปลายเขาของควายถูกลำคัวของลุง ก็ต้องทะลุจากสีข้างหนึ่งไปยังสีข้างหนึ่งแน่ เพราะเด็กตัวเล็กขนาดนั้น อายุระหว่าง 4 - 5 ขวบ ร่างกายเปราะบาง

ความคิดที่เกิดขึ้นในวันนั้นก็คือ ทำไมปลายเขาไม่ถูกลำตัว?

นี่คือ คำถามที่ลุงถามตัวเอง

ปกติแล้วถ้าควายขวิดแว้งอย่างนี้ ปลายเขาจะต้องถูกตัวของเราอย่างไม่ต้องสงสัย มันขวิดเราเพราะมันเกิดความรำคาญที่เราไปลูบตัวมัน เพราะ มันกำลังกินหญ้า หรือเป็นเพราะมันเกิดอาการหวงหญ้า

เราก็คิดไม่ออก มันขวิดเราทำไม? เพราะ เราเป็นเจ้าของ เราเลี้ยงมันทุกวัน มันรู้จักเราเป็นอันดี หรือมีอะไรสิงใจมัน? เราก็เดาไม่ถูก

ปกติควายที่ขวิดเจ้าของ จะไม่มีใครเลี้ยงไว้ เขาเอามันไปขายทอดตลาดทั้งนั้น

กรณีที่ปลายเขาถูกลำตัวของลุง ร่างกาย ของเราก็ต้องติดปลายเขาของมัน แล้วมันก็จะสลัดให้ตัวของเราหลุดจากปลายเขา แล้วเราก็จะตายอยู่ตรงนั้น

หากเราตายอยู่ตรงนั้น บิดามารดาและญาติไม่รู้ว่าลุงหายไปไหน? จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อถึงเวลาเย็น ทำไมลุงไม่เอาควายกลับบ้าน?

ลุงไปเลี้ยงควายที่ไหนหรือ? ก็จะมีการออกติดตามกันในตอนนั้น

นี่คือ ความหวาดเสียวที่เกิดกับลุง ในตอนที่ลุงเป็นเด็กเล็กยังวิ่งแก้ผ้าอยู่

หากลุงตายไปในวันนั้น วันนี้ก็ไม่ได้ทำวิชาปราบมาร และชาวโลกก็จะไม่ได้อ่านเรื่องลึกลับที่ลุงนำมาเปิดเผยเป็นครั้งแรกในโลก

สรุป ความหวาดเสียวที่เลี้ยงควายไอ้หมอน มันขวิดกันในแม่น้ำหนหนึ่ง กับไอ้หมอนขวิดลุงอีกหนหนึ่ง นับเป็นความหวาดเสียวที่ลุงรอดมาได้อย่างอัศจรรย์

เหตุการณ์ตอนที่เลี้ยงไอ้หนุ่มกับไอ้ท่อก เพียงแต่ตกจากหลังควาย รายการนั้นไม่เท่าไร? เพราะร่างกายกระทบกระแทกไม่มากนัก เพียงแต่ร่างกายไม่เจริญเติบโตเป็นปกติเท่านั้น

กล่าวถึง เมื่อตอนที่ลุงเป็นทารก ตกน้ำไม่ตาย เพราะตัวลอยน้ำ แถมยังทำประโยชน์ได้ตั้งแต่ตอนเป็นทารกน้อย ตรงที่ไปช่วยชาวบ้านเอาก้างปลาที่ติดคอออกได้

ตรงนี้ลุงเกิดความพอใจที่เราทำประโยชน์ได้ คนเราถ้าทำประโยชน์ให้ใครไม่ได้ เราจะเกิดมาทำไม? รกโลกรกบ้านรกเมืองเขาเปล่าๆ

คุณค่าของคนอยู่ที่เราทำประโยชน์ได้หรือไม่? ถ้าทำได้! เขาคือผู้มีคุณค่า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น